ผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งด้านร่างกายและระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ หนึ่งในปัญหาสำคัญที่พบบ่อยคือ ภาวะกลืนลำบาก (Dysphagia) ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตโดยรวม
ภาวะกลืนลำบากคืออะไร?
อาการกลืนลำบากสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
✅ กลืนติด – รู้สึกว่าอาหารติดคอ กลืนอาหารแข็งได้ยาก
✅ กลืนสำลัก – มีอาการสำลักหรือไอขณะกลืนอาหารหรือน้ำ
ทำไมผู้สูงอายุถึงกลืนลำบาก?
ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะกลืนลำบาก ได้แก่
🔹 โครงสร้างช่องปากและคอหอยเปลี่ยนแปลง – ฟันหลุด ลิ้นแข็ง กล้ามเนื้ออ่อนแรง
🔹 โรคทางระบบประสาท – อัมพฤกษ์ อัมพาต พาร์กินสัน
🔹 เนื้องอกหรือก้อนเนื้อ – ขัดขวางการกลืน
🔹 ระบบรับรู้ความรู้สึกลดลง – ทำให้เกิด ภาวะสำลักเงียบ ซึ่งอันตรายมากเพราะไม่มีการไอหรือขับสิ่งแปลกปลอมออก
ผลกระทบของภาวะกลืนลำบาก
ปัญหาทางร่างกาย – เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ ขาดสารอาหาร น้ำหนักลด และติดเชื้อในปอดจากการสำลัก
ปัญหาทางจิตใจและสังคม – ผู้สูงอายุอาจรู้สึกอาย กลัวการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น และเกิดภาวะซึมเศร้า
แนวทางการรักษาและป้องกันอาการสำลักในผู้สูงอายุ
- รักษาโรคที่เป็นสาเหตุของภาวะกลืนลำบาก – หากเกิดจากโรคประจำตัว ควรเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม
- ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
• ค่อยๆ รับประทานอาหาร เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน
• มีสมาธิเวลารับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการดูทีวีหรือพูดคุยระหว่างรับประทาน
• นั่งตัวตรงขณะรับประทานอาหาร และไม่ควรเอนตัวลงทันทีหลังจากรับประทาน - ใช้อุปกรณ์ช่วยในการดื่มน้ำ
• แทนที่จะใช้แบบยกดื่ม อาจเปลี่ยนเป็นหลอดเล็กๆ เพื่อลดโอกาสสำลัก - ปรับสภาพอาหารให้เหมาะสม
• บดอาหารให้มีเนื้อสัมผัสที่ละเอียดขึ้น ตามมาตรฐาน IDDSI (International Dysphagia Diet Standardisation Initiative)
• ใช้ส่วนผสมเพิ่มความหนืด เช่น แป้ง หรือผลิตภัณฑ์ผงปรับความหนืดที่มีขายในท้องตลาด เพื่อช่วยให้กลืนได้ง่ายขึ้น
ภาวะกลืนลำบากอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากละเลย อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ การใส่ใจและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
